วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คำสอนของแม่

ตั้งแต่เล็กจนโต แม่สอนหลายอย่างโดยคำพูด เช่น อย่าสระผมตอนกลางคืน อย่าแคระจมูกด้วยนิ้วชี้ อย่าอ่านหนังสือในที่มืดนะตาจะเสีย แต่งงานได้แล้วนะอยู่คนเดียวจะเหงา จะต้องประหยัดนะ อย่าใช้เงินเก่ง ถ้าไม่มีเงินจะลำบาก ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรมากมายจึงไม่รู้คุณค่าของคำสอน หลังจากคุณแม่จากไปแล้ว คำสอนเหล่านั้นเพื่อลูกๆ ทั่งนั้น คำสอนอีกอย่างหนึ่งคือทำอาหารกินเองเถอะ กินข้างนอกเขาทำไม่สะอาด เช่น หมูสับก็ไม่ได้ล้างและนำมาบด อาหารข้างนอกใส่ผงชูรสเยอะกินแล้วไม่ดี คอแห้งด้วย ถ้าเลือดกำเดาไหลให้กินปลาดุกต้มถั่วดำ ถ้าร้อนในให้กินน้ำแกงมะระ จำได้ว่าแม่บอกว่าวันๆไม่รู้จะกินอะไรต้องคิดกับข้าวทุกวัน แต่ผมก็ได้กินกับข้าวฝีมือแม่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาเรียนหรือช่วงเวลาทำงาน และจะต้องกลับมากินข้าวเกือบทุกวัน ถ้าวันไหนกลับดึกแม่จะเผื่อกับข้าวและข้าวไว้ให้และรอจนผมกลับมา ซึ่งในตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเพราะคิดว่าแม่จะอยู่กับผมอีกนาน จนกระทั่งแม่เริ่่มปวดหัวในขณะที่รอผมกลับมากินข้าว ท่านรอเช่นนี้จนร่างกายท่านไม่ไหวไม่สามารถทำกับข้าวได้ และได้เสียชีวิตหลังจากการผ่าตัด 3 เดือน เดี๋ยวนี้ผมกับข้่าวนอกบ้านเกือบทุกมื้อ ผมจึงรู้ว่าอาหารฝีมือแม่อร่อยที่สุดครับ

วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คิดถึงแม่

ตอนแรกจะเขียนบทความนี้เป็นภาษาอังกฤษแต่กลัวไม่ได้ใจความที่จะสื่อของคนเขียนบทความจึงขอเขียนที่ภาษาไทยนะครับ เมื่อวานดูรายการตลาดสดสนามเป้า ซึ่งแม่ค้าที่ออกรายการเป็นอาม่าขายข้าวต้มเลี้ยงลูก 8 คนมาเป็นเวลา 50 กว่าปี ตอนนี้ก็ขายอยู่ การเลี้ยงลูก การตื่นแต่เช้าเหมือนกับที่แม่ผมทำให้กับผม เช่น แม่จะตื่นประมาณ ตี 4 หรือ ตี 5 ไปตลาด ทำกับข้าว หุงข้าว ซักผ้า รวมถึงปลุกผม ด้วยการใช้ไม้เคาะพื้นไม้ชั้น 2 ให้เสียงดังจนผมตื่น แม่ทำอย่างนี้ เป็นเวลาเกือบ 40 ปี ก่อนที่ท่านจะจากไป หลังจากดูรายการเสร็จคิดถึงแม่มากครับ